วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

คำศัพท์ประกันภัย

การจะซื้อ หรือจะขายประกันภัย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องรู้คำศัพท์ที่จำเป็นเกี่ยวกับประกันภัยก่อน เพราะหากเป็นผู้ซื้อ หากไม่รู้คำศัพย์ที่จำเป็น ก็อาจจะโดนเอาเปรียบได้ และหากตัวแทนไม่ทราบแล้ว ก็อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และการบริการลูกค้าก็เป็นได้ ดังนั้นคำศัพท์เหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์

วินาศภัย- ความเสียหายใดๆ ซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้ และยังรวมถึงความสูญเสียในสิทธิ, ผลประโยชน์หรือรายได้ด้วย

โมฆียะ- การเกิดความบกพร่องในการทำสัญญาเช่น ไม่ระบุความจริง ซึ่งจะมีผลให้สัญญานั้นไม่เกิดขึ้น และไม่สามารถนำมาใช้ได้

ตัวแทน- ผู้ซึ่งบริษัทมอบหมายให้ทำการชักชวนให้บุคคล ทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท

นายหน้า- เป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในการควบคุมของบริษัทผู้รับประกันภัย การทำงานของนายหน้าเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของตนโดยอิสระ (Professional Broker) ตามปกติจะไม่ทำแทนผู้รับประกันภัยและไม่ได้รับมอบหมายจากผู้รับประกันภัยให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด

คำขอเอาประกันภัย (Application Form)- ใบคำขอเอาประกันภัยเป็นเอกสารสำคัญที่ทำขึ้นเพื่อแสดงความประสงค์ว่าจะเอาประกันภัย อย่างใดอย่างหนึ่งไว้กับผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ที่จะต้องเปิดเผยความจริง (Disclosure) โดยไม่ต้องรอให้ผู้รับประกันภัย สอบถามและหากมีข้อความสอบถามใดๆ ผู้เอาประกันภัยจะต้องตอบตามความจริงทั้งหมด (Representation) มิฉะนั้นสัญญาประกันภัย อาจตกเป็นโมฆียะ ซึ่งผู้รับประกันภัยสามารถบอกเลิกได้

กรมธรรม์ (Policy)- เอกสารที่ออกโดยผู้รับประกันภัย โดยมีข้อความตรงกับความประสงค์ในใบคำขอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไปซึ่ง ระบุถึงสาระสำคัญของข้อตกลง เงื่อนไข และความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย

ผู้เอาประกันภัย (The Insured)- คู่สัญญาประกันภัยซึ่งมีหน้าที่เปิดเผยข้อความจริงต่อผู้รับประกันภัย ตลอดจนมีหน้าที่ชำระเบี้ย ประกันภัย และเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นในส่วนที่เอาประกันภัยไว้ ผู้เอาประกันภัยก็มีสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

ผู้รับประกันภัย (The Insurer)- คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง (โดยทั่วไปคือบริษัทประกันภัย) ที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายจากกรม การประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิในการรับเบี้ยประกันภัย และมีหน้าที่พิจารณารับประกันภัย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นตามที่ระบุไว้ในสัญญา ในการชดใช้นั้น อาจชดใช้เป็นเงินสด การซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม หรือการหาของชิ้นใหม่มาแทนที่ได้รับความเสียหายก็ได้

ผู้รับประโยชน์ (The Beneficiary)- เป็นบุคคลภายนอกสัญญาที่มีสิทธิเข้ารับประโยชน์ในค่าสินไหมทดแทน ทั้งนี้ ผู้รับประโยชน์อาจ เป็นบุคคลเดียวกับผู้เอาประกันภัยก็ได้ ในกรณีที่เป็นต่างบุคคล เมื่อมีผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์แล้ว ผู้เอาประกันภัยจะไม่มีสิทธิ รับค่าสินไหมทดแทนอีกต่อไป

ค่าสินไหมทดแทน (Claim Amount)- ความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ โดยความเสียหายดังกล่าว เป็นผลมาจากภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และมีจำนวนตามที่เสียหายจริง

เบี้ยประกันภัย (Premium)- จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องส่งใช้ให้กับผู้รับประกันภัย เนื่องจากสัญญาประกันภัยเป็นสัญญา ต่างตอบแทน ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัย และเกิดความเสียหายขึ้น ผู้รับประกันภัยก็อาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ได้ จนกว่าผู้เอาประกันภัยจะชำระเบี้ยประกันภัยตามหน้าที่ของตน

ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible)- ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองในความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง เช่นในการ ประกันภัยรถยนต์มีการกำหนดความเสียหายส่วนแรกไว้ที่ 1,000 บาท/ครั้ง ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในแต่ละครั้ง หากความเสียหาย เท่ากับ 1,000 บาท หรือน้อยกว่า คุณจะไม่ได้รับการชดเชยจากทางบริษัทประกันภัย หากแต่คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง หากความเสียหายมากกว่า 1,000 บาทคุณจะจ่ายเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนที่เพิ่มขึ้นเอง ค่าเสียหายส่วนแรกจะมีส่วนในการทำให้มูลค่าเบี้ยประกันภัยของคุณลดลงได้ตามจำนวนที่ระบุ นอกเหนือจากนั้น ยังทำให้ ผู้เอาประกันภัยมีความระมัดระวังมากขึ้น (เพราะการเกิดความเสียหายขึ้นจะหมายถึงการเสียค่าเสียหายส่วนแรกด้วย)

ทุนเอาประกันภัยหรือจำนวนเงินที่เอาประกันภัย (Sum Insured)- จำนวนเงินสูงสุดที่ผู้รับประกันภัยจะต้องชดใช้ เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นตามสัญญา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น