วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

มาดูอันดับยี่ห้อรถยนต์ที่ "หาย" กัน

ตอนนี้มีข่าวรถหายเยอะมากๆ มีทุกๆวัน ยิ่งเศรษฐกิจที่มีแต่เดี้ยงกับเดี้ยง ทาให้ยิ่งรถหายกันเยอะเข้าไปใหญ่ไม่เว้นแม้แต่รถเก่าๆอายุ 10 กว่าปี ดังนั้นต้องระวังกันสุดๆครับ จึงขอแจ้งอันดับสุดยอดรถหายประจาปี 2551-2552 มาให้ทราบกัน



ประเภทรถยนต์นั่ง


อันดับ 1 ได้แก่......... Toyota Vios ครับ เป็นสุดยอดรถหายแห่งปี เพราะเป็นที่นิยมของประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยรูปทรงที่กะทัดรัด คล่องแคล่ว อะไหล่หาง่าย และสีหายยอดนิยมก็คือ สีบรอนซ์เงิน สีบรอนซ์เทา สีดา ครับ

อันดับ 2 ได้แก่ ....... Honda Jazz ครับ เนื่องจากเป็นรถยอดนิยม และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นสตรี ดังนั้น การระแวดระวัง จะน้อยกว่า ดังนั้น จึงหายจนเป็นเรื่องปรกติของรถรุ่นนี้ครับ สียอดนิยมที่มักจะหาย คือ สีขาว

อันดับ 3 ได้แก่........ Toyota Yaris ที่ตกหล่นมาจากอันดับ 2 เพราะยอดจาหน่ายยังสู้อันดับ 2 ไม่ได้ แต่ที่ยังหายเยอะ เนื่องจาก Toyota ได้ขยับลดราคาของรถรุ่นนี้ โดยออกเป็นรุ่น E ออกมา ทาให้ตลาดคนใช้เยอะเหมือนๆกัน แล้วสีที่หายยอดนิยมได้แก่ สีแดง ครับ

อันดับ 4 ได้แก่ ......... Honda Civic เนื่องจากรถ Honda ถือว่าเป็นรถมีระดับในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Civic เก่า หรือใหม่ ก็สามารถส่งขายได้หมด เหมือนกัน ครับ สี่ที่หายยอดนิยมก็คือ สีดา สีขาว สีบรอนซ์เทา

ประเภทรถตู้

ตู้ที่หายยอดนิยมก็ได้แก่ Toyota New Hiace Ventury ก็ไม่รู้ว่ารถตู้รุ่นใหม่ๆ นี่คันบะเริ่ม มันขโมยไปได้อย่างไรเหมือนกันครับ และสีที่หายยอดนิยม กลับเป็นสีขาว เสียด้วย ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ไม่ค่อยจะปรากฎว่าหายสักเท่าไหร่น่ะครับ

ประเภทรถกะบะ

รถกะบะบรรทุกยอดนิยม ได้แก่

อันดับ 1 Toyota Vigo ครับ หายได้ทุกรุ่น ทุกสี โดยเฉพาะ รุ่นแค็ป ขับสองธรรมดา จะหายทุกๆวัน วันละหลายๆคัน

อันดับ 2 Isuzu Dmax ครับ หายได้ทุกรุ่นเหมือนกัน แต่รุ่นที่หายยอดนิยมกลับเป็น Hi-Lander ยกสูง นัยว่า เข้าตาประเทศเพื่อนบ้านครับ มัน " มะ " ที่ได้ใช้ว่างั้นเถอะ

สถานที่จอดรถที่มีความเสี่ยงต่อการถูกขโมย

อันดับ 1 ส่วนสถานที่มักจะหายกันประจำ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะหายได้ง่ายที่สุด ก็คือ ตามริมถนนใหญ่ และหน้าบ้านที่เจ้าของบ้านเป็นตึกแถว และที่หายมักจะเป็นตึกแถวที่อยู่ริมถนนใหญ่ หรือ อยู่ในซอยไม่ลึกมาก ( นัยว่าคนผ่านไปมาเยอะ ก็เลยไม่คิดว่าจะกล้าลงมือ และยิ่งอยู่ถนนใหญ่ พอขโมยได้ก็ควบหนีได้สะดวก ) ส่วนตามหมู่บ้านจัดสรร ทั่วๆ ไป จะน้อยกว่า ถึงน้อยกว่ามากๆ แต่อย่างไรถ้าสบโอกาส ก็หายได้เหมือนๆกันครับ

อันดับ 2 ก็คือ ตามตลาดนัดต่างๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ตามตลาดน้าทุกๆที่ ทุกๆจังหวัดครับ เพราะผู้ร้ายรู้ว่า เจ้าของมัวแต่เดินชอปปิ้งอยู่ ดังนั้นจะมีเวลาเหลือเฟือในการทางาน และความที่คนพลุกพล่านจึงมักคิดกันว่า ผู้ร้ายไม่กล้าลงมือ แต่จริงๆแล้วนั่นแหละคือที่ๆดีที่สุด อย่างที่ จ.พระนครศรีอยุธยาฯ นั้น สถานที่ๆ รถหายเยอะที่สุด ก็คือ ห้างฯ Lotus นั่นแหละ หายได้ทุกๆวัน ครับ และทางห้างฯ ก็ไม่รับผิดชอบเสียด้วย ดังนั้นเพื่อนๆสมาชิกก็อย่าประมาทน๊ะครับ เพราะกว่าเราจะหาเงินมาซื้อรถได้แทบตาย พวก กากเดนทรชน มันก็มาชุบมือเปิบไปเรียบร้อยเสียแล้ว


รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!! รู้ทันภัย...ก่อนรถหาย!!

เมื่อแก๊งลักรถอาละวาด กว่าจะเก็บเงินซื้อรถได้สักคันหนึ่ง เราต้องเก็บหอมรอมริบ และทางานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตอยู่นานเป็นปี แต่พวกมิจฉาชีพที่รวมตัวกันเป็น “แก๊ง” กลับใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีขโมยรถของเราหายเข้ากลีบเมฆไปขายได้เงินไปใช้ ฟรี ๆ ซะอย่างนั้น ยิ่งรู้อย่างนี้แล้วมันยิ่งเจ็บใจ มีวิธีไหนบ้างไหมที่ไม่ต้องเสียรู้โจรและเสียใจภายหลังอย่างนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตารวจนครบาล 3 และรองหัวหน้าศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยาน ยนต์ กองบัญชาการตารวจนคร บาล (ผบก.น.3 และรองหัวหน้า ศปจร.น.) อธิบายถึงนโยบายการปราบปรามการโจรกรรมรถ ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปรับปรุงศูนย์ฯ เนื่องจากที่ผ่านมามีการโจรกรรมรถเพิ่มมากขึ้น นโยบายหลักขณะนี้จึงเน้นให้ตารวจทุกโรงพักรวบรวมสถิติรถหายแต่ละท้องที่แล้ว นามาวิเคราะห์ ออกตรวจตามเต็นท์รถมือสอง สถานที่รับทาทะเบียนรถ ร้านรับซื้อของเก่า รวบรวมประวัติแก๊งลักรถต่าง ๆ และสารวจรถที่มาแจ้งความเท็จเพื่อเอาประกันเนื่องจากวิธีนี้มีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สถิติรถหายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย “จากสถิติปีที่แล้วเฉพาะในกรุงเทพฯ มีรถจักรยานยนต์แจ้งหายถึง 6,000 คัน รถเก๋ง 400 คันและรถกระบะ 400 คัน พื้นที่ที่หายมากที่สุดคือ บก.น.4 จะมีรถจักรยานยนต์หายมาก ที่ สน.โชคชัย บก.น.9 ที่ สน.บาง ขุนเทียน ตกเดือนละ 30 คัน เฉลี่ยแล้ววันละ 1 คัน จากตัวเลขของยี่ห้อรถกระบะที่ถูกโจร กรรมและหายมากที่สุดคือ ยี่ห้ออีซูซุ ส่วนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า และรองลงมาคือยี่ห้อฮอนด้า สาหรับรถจักรยานยนต์ได้แก่ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ, โซนิคและฟีโน่” สาหรับเส้นทางหลังจากที่รถถูกโจรกรรมจะถูกถอดชิ้นส่วนอะไหล่แล้วนาไปขายตาม ร้านรับซื้อของเก่า แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนาส่งออกไปตามชายแดนทั้งคันเพื่อขายให้กับลูกค้าในประเทศ เพื่อนบ้าน รองหัวหน้า ศปจร.น. เปิดเผยถึงราคารถที่ขโมยมาได้เมื่อนาออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านว่า ถ้าเป็นรถกระบะและรถเก๋งจะได้ราคาคันละประมาณ 200,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์จะได้คันละ 8,000-10,000 บาท ตามสภาพเก่า-ใหม่ของรถ ทั้งนี้คนทาผิดจะต้องได้รับโทษโดยการกระทาการดังกล่าวถือเป็นความผิดข้อหา ลักทรัพย์ ถ้าเป็นการลักทรัพย์ตอนกลางคืนมีโทษจาคุก 5 ปี และในเวลากลางวัน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจาทั้งปรับ ส่วนพฤติกรรมของแก๊งโจรกรรมรถที่เราควรรู้ พ.ต.ท. อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้กากับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตารวจนครบาล (รอง ผกก.ศส. บช.น.) อธิบายถึงกระบวนการ ของคนร้ายในการโจรกรรมรถว่าประกอบด้วย 5 ฝ่าย คือ

1.ฝ่ายผู้ส่งรถหรือนายหน้าส่งออก หมายถึงผู้สั่งหรือติดต่อกับฝ่ายโจรกรรมรถให้ขโมยรถจักรยานยนต์ตามยี่ห้อ แบบ ขนาด สี ฯลฯ หรือภาษาโจรเรียกว่า “ตามใบสั่ง” ที่ต้องการเพื่อใช้ในประเทศ หรือส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

2.ฝ่ายโจรกรรมรถ คือพวก โจรหรือคนร้ายที่ลักรถยนต์และจักรยานยนต์อย่างเดียว จะใช้วิธีต่าง ๆ เช่น งัดหูช้าง ทากุญแจปลอม เพื่อขโมยรถตามที่ต้องการ, โจรที่ยักยอกรถไปขาย เช่น ซื้อมาจากบริษัทผู้ขายระบบผ่อน แล้วยักยอกไปขายให้ผู้อื่น ส่วนใหญ่ส่งไปขายยังประเทศกัมพูชา จากนั้นไปแจ้งความว่ารถหาย เป็นวิธีที่ทากันมากจนสถิติแจ้งความรถหายพุ่งสูงขึ้น, โจรที่ปล้นรถหรือชิงรถ โดยใช้วิธีปล้นชิงรถที่จอดในที่เปลี่ยวหรือตามปั๊มน้ามัน ฉะนั้น เวลาเราจอดรถลงไปทาธุระไม่ควรสตาร์ต รถเสียบกุญแจทิ้งไว้เพราะจะมีโจรพวกนี้คอยดักโจรกรรมรถอยู่, โจรหลอกลวงเพื่อให้ได้รถ จะใช้ วิธีติดต่อขอซื้อรถและใช้อุบายทดลองขับแล้วหนีหรือใช้อุบายเช่ารถเดินทางไป ต่างจังหวัดและนา ไปขาย

3.ฝ่ายขนส่งหรือนารถไปยังจุดที่กำหนด คนร้ายฝ่ายนี้มีชื่อเรียกกันในวงการโจรว่า “นักบิน” มีหน้าที่รับจ้างขับรถจากฝ่ายผู้สั่งซื้อหรือนายหน้าเพื่อนาไปส่งยังจุดที่ กาหนด อัตราค่าจ้างขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการขับ ชนิดรถและความเสี่ยง มีราคาตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท ส่วนใหญ่คนร้ายฝ่ายนี้จะเป็นคนในท้องถิ่นบริเวณชายแดนที่ติดต่อกับประเทศ เพื่อนบ้านเพราะรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี โดยจะนารถที่โจรกรรมมาขับไปจอดซุกซ่อนไว้ในป่ารกร้างลับสายตาผู้คนตามตะเข็บ ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน รอเวลาขนส่งข้ามแดนต่อไป

4.ฝ่ายผู้ซื้อ จะมีทั้งคนไทยที่ต้องการรถที่ถูกโจรกรรมใช้ในประเทศโดยใช้ทั้งคันหรือซื้อ แบบแยกชิ้นส่วน และคนในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศกัมพูชามีความต้องการสูงเนื่อง จากราคาถูกกว่าซื้อในประเทศไทย

5.ฝ่ายปลอมแปลงเอกสารประจำรถ เอกสารที่ปลอมแปลงมีแผ่นป้ายทะเบียนหน้า-หลัง แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีและสมุดคู่มือประจารถ ซึ่งในปัจจุบันมีการปลอมแปลงเอกสารลอกเลียนแบบที่เหมือนของจริงมากจนแยกไม่ ออก ว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม จนตารวจต้องพยายามศึกษาเอกสารจริง-ปลอมว่าเป็นอย่างไร หากพบผิดปกติจะได้จับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที เมื่อรู้ว่าคนร้ายมีการพัฒนากระบวนการโจรกรรมรถเป็นระบบที่น่ากลัวแบบนี้ แล้วยิ่งเสียวไส้จริง ๆ ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ พ.ต.ท.อรรถพร แนะนาว่า ไม่ว่าคนร้ายจะมีพัฒนาการลักขโมยรถอย่างไร ถ้าเรารู้เท่าทันคนร้ายก็จะสามารถปกป้องรถของเราได้เช่นกัน เช่น ควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมรถ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันได้ทั้งหมด เพียงแต่จะทาให้รถของคุณเป็นตัวเลือกลาดับท้าย ๆ ของนักโจร กรรม เพราะเนื่องจากคนร้ายเห็นว่ามีอุปกรณ์ป้องกันก็จะไม่เสี่ยงที่จะขโมย สถานที่จอดรถก็สาคัญเมื่อเรานารถไปจอดที่ใดก็ตาม ควรสังเกตว่าเป็นมุมอับมากน้อยแค่ไหน หากจอดในห้างสรรพสินค้าต้องสังเกตว่ามี รปภ.ดูแลอยู่หรือไม่ และมีกล้องวงจรปิดอยู่ ตรงที่ใดให้พยายาม เลือกหาที่ จอดให้อยู่ในระดับกล้องวงจรปิดส่องถึง สาหรับรถจักรยานยนต์ยิ่งง่ายต่อการถูกโจรกรรม ควรเลือกจอดในที่ปลอดภัย เช่น สถานที่มีที่รับฝากรถ ระวังเวลาที่เรานารถไปล้างอัดฉีดตามสถานบริการหรือซ่อมรถตามอู่ ไม่ควรทิ้งรถและกุญแจรถไว้กับพนักงานบริการหรือคนซ่อมรถเป็นเวลานาน ที่สาคัญควรเลือกอู่รับซ่อมที่รู้จักกันไว้วางใจได้ แต่ถ้าเป็นอู่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและมีความจาเป็นที่ต้องทิ้งรถให้ซ่อม เป็นเวลาหลายวัน เมื่อรับรถคืนควรเปลี่ยนกุญแจประตูรถ เพราะกุญแจเดิมอาจถูกคนร้ายพิมพ์แบบเอาไว้ ถ้ากุญแจเป็นแบบรีโมตอาจถูกดูดข้อมูลได้ ฉะนั้น เวลาซื้อกุญแจรถแบบรีโมตให้เลือกแบบป้องกันการดูดข้อมูลด้วยและเมื่อต้องจ้างคนขับรถควรพิจารณาเลือกบุคคลที่ไว้วางใจได้ ขอภาพถ่ายพร้อมทั้งประวัติถิ่นที่อยู่อย่างแท้จริงไว้ด้วยทุกครั้งหากเกิด เหตุร้ายขึ้นจะได้ติดตามตัวได้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถปกป้องรถให้พ้นเงื้อมมือโจรได้แล้ว ที่สาคัญเมื่อเรารู้ตัวว่า “รถหาย” ถึงแม้ว่าเราจะตกใจขนาดไหนก็ตามควรมีสติแล้วโทรศัพท์แจ้งรายละเอียดแก่เจ้า หน้าที่ตารวจท้องที่ที่เกิดเหตุทราบโดยเร็ว เพื่อความรวดเร็วในการติด ตามสกัดจับคนร้ายและเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร, ข้อมูลของรถที่ถูกโจร กรรมไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยสกัดจับได้ทันท่วงทีก่อนรถของเราจะถูกส่งออกไปขายต่อ ยังประเทศเพื่อนบ้าน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น